จากกรณี คนร้ายลักพาตัว นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ อายุ 67 ปี พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ ขณะอยู่บริเวณหน้าศาล เพื่อต่อรองทางคดีให้พิพากษายกฟ้อง “พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์” อดีต รมช.พาณิชย์ ที่ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีปลอมเอกสารโอนหุ้น “นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง” มูลค่า 300 ล้านบาท แต่ภายหลัง นายวีรชัย กลับถูกกลุ่มผู้ต้องหาซ้อมจนถึงแก่ชีวิต จึงนำศพไปทำลายทิ้งอำพรางคดี ขณะที่ตำรวจสืบสวนจนจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 รายแล้ว โดยหนึ่งในนั้นซัดทอด พ.ต.ท.บรรยิน เป็นผู้บงการ
คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 08.30 น. นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ พร้อมกับนายวรภัทร์ ตั้งภากรณ์ ภรรยาและลูกชายนำเสื้อผ้าและอาหารเข้าไปให้พ.ต.ท.บรรยิน ผู้ต้องหาในคดีการหายตัวไปของพี่ชายผู้พิพากษา ภายในห้องควบคุมกองบังคับการปราบปราม
โดยภายหลังเข้าเยี่ยมประมาณ 30 นาที นายวรภัทร์ กล่าวสั้น ๆ ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาพ่อนอนหลับสบายดี ไม่มีความกังวลใด ๆ ส่วนเรื่องคดียังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะพ่อยังไม่มีสิทธิ์พบทนายความ แต่ส่วนตัวเชื่อมั่นในตัวพ่อ มั่นใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และพ่อก็น่าจะถูกกลั่นแกล้ง
จากนั้น เวลา 16.00 น. ชุดปฏิบัติการพิเศษ หนุมาน กองปราบปราม เบิกตัวพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ผู้ต้องหามาจากห้องคุมขัง กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติม โดยระหว่างคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ระบุว่า เป็นครั้งแรกที่ถูกนำตัวไปสอบปากคำหลังถูกจับกุมเมื่อวาน ส่วนรายละเอียดตนเองได้เขียนชี้แจงไปหมดแล้ว
ส่วนตัวไม่ได้มีความกังวล เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามว่าได้อยู่บริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันที่เกิดเหตุตามวงจรปิดที่เป็นหลักฐานสำคัญหรือไม่ พ.ต.ท.บรรยิน ไม่ได้ตอบ ก่อนตำรวจจะนำตัวขึ้นไปข้างบนทันที ท่ามกลางการอารักขาอย่างแน่นหนา
ขณะที่นางวราภรณ์ ภรรยาและลูกชาย ที่มารอเยี่ยมตามรอบเวลา 16.00 – 17.00 น. ภายหลังเห็นพ.ต.ท.บรรยินถูกคุมตัวไปสอบก็ได้เดินตามขึ้นไปด้านบนเช่นกัน โดยใช้เวลาสอบปากคำพ.ต.ท.บรรยิน ประมาณ 2 ชั่วโมง จนเวลา 18.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวพ.ต.ท.บรรยินลงมาที่ห้องคุมขัง
โดย พ.ต.ท.บรรยิน เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตนไปสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาไปตามขั้นตอน ซึ่งยังเป็นข้อหาตามหมายจับอยู่ ส่วนของหลักฐานกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพว่าตนอยู่บริเวณหน้าศาลนั้น ตนยังไม่ทราบเรื่อง เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าในวันเกิดเหตุพ.ต.ท.บรรยิน อยู่ที่หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้หรือไม่ พ.ต.ท.บรรยิน บอกเพียงสั้น ๆ ว่า ไม่ทราบ
นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยา เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ขึ้นไปพูดคุยกับสามี อีกฝ่ายก็ไม่มีความกังวลหรืออึดอัดอะไร ซึ่งก่อนหน้านี้ตนอยากออกมาพูดชี้แจง แต่ขอกลับไปปรึกษาครอบครัวก่อน จึงต้องรอความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ได้เตรียมหลักทรัพย์เพื่อยื่นประกันตัว พ.ต.ท.บรรยินที่ชั้นศาลไว้แล้ว
ขณะที่ นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ยืนยันเหตุการณ์การอุ้มลักพาตัวพี่ชาย ของน.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสศาลอาญากรุงเทพใต้ ถือเป็นครั้งแรกที่มีความเรื่องรุนแรงที่สุดในการคุกคามการทำหน้าที่ของผู้พิพากษา ซึ่งจากการพูดคุยกับน.ส.พนิดา ยอมรับว่าถูกคุกคามเรื่อยมาตั้งแต่รับพิจารณาคดีปลอมเอกสารการโอนหุ้นมูลค่า 300 ล้านบาท ของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง แต่ไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดที่ถูกคุกคามได้
แม้ขณะนี้ตำรวจสามารถจับตัวผู้ต้องหาในคดีอุ้มลักพากตัวได้บางส่วน แต่ตัวน.ส.พนิดา ก็ยังไม่ไว้วางใจ ทางสำนักงานศาลจัดตำรวจในการดูแลคุ้มครองความปลอดภัยอยู่ ส่วนในวันที่ 20 มี.ค.63 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้นัดอ่านคำพิพากษาในคดีโอนหุ้นเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการเลื่อนฟังคำพิพากษาหรือไม่ เพราะเป็นอิสระของศาลอาญากรุงเทพใต้ในการพิจารณา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำคำพิพากษาแต่เชื่อว่าการข่มขู่ตัวผู้พิพากษาไม่ผลต่อการตัดสินคดี เนื่องจากที่ผ่านมาตัวน.ส.วพนิดา และผู้พิพากษาทุกคนยึดมั่นในจริยธรรมและข้อกฎหมายที่จะพิจารณาความเป็นธรรมโดยปราศจากอคติ
ด้าน นายมานะ นามสมมติ อายุ 40 ปี วินมอเตอร์ไซค์ ได้เปิดเผยว่า ปกติแล้วช่วงเย็นเวลา 17.00 น. คนในพื้นที่มักจะเห็นผู้เสียชีวิตนั่งรถแท็กซี่มาลงที่บริเวณด้านหน้าศาลเป็นประจำ และจะเข้ามารับผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในศาลเกือบทุกวัน กระทั่งมาทราบในภายหลังว่า ผู้หญิงคนดังกล่าว เป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิต จากนั้นผู้เสียชีวิตก็จะเดินมายืนรอที่บันไดขึ้นศาลแพ่ง และไม่เคยเห็นว่าผู้เสียชีวิตจะพูดคุยกับใคร เมื่อน้องสาวเลิกงาน ทั้งคู่ก็จะเดินทางกลับด้วยรถแท็กซี่
มีรายงานว่า เส้นทางที่คนร้ายใช้ลักพาตัวพี่ชายผู้พิพากษาเริ่มจาก คนร้ายออกจากศาลฯ และเดินทางต่อไปยังอ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนจะเดินทางผ่าน จ.สุพรรณบุรี และเดินทางต่อไปจนถึงจ.นครสวรรค์
VDO>>>>>>>>
https://youtu.be/-dbzIddFjqQ