จากกรณี วันที่ 21 ก.พ. 63 เกิดเหตุมีคนยิงกันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ม.2 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน ผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ทราบชื่อคือนายวัฒนกุล หรือกวาง วุฒินาม อายุ 32 ปี เป็นลูกเขยของสมาชิกสภาเทศบาลตำบลไร่ขิง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 มม. เข้าที่ขมับซ้าย 1 นัด และที่แขนซ้าย 1 นัด อาการเป็นตายเท่ากัน
ส่วนคนก่อเหตุทราบชื่อเพียงชื่อเล่น คือนายเบียร์ หลังก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ไม่ทราบสีและทะเบียนมุ่งหน้าออกถนนเพชรเกษม ไปทางจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยอาวุธปืนที่ก่อเหตุ
วันที่ 22 ก.พ. 63 นายวัฒนา วุฒินาม อายุ 29 ปี น้องชายของผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า นายวัฒนกุล พี่ชายของตนนั้น ไม่ได้รู้จักกับนายเบียร์ ผู้ก่อเหตุ เป็นการส่วนตัว เนื่องจากนายเบียร์เพิ่งย้ายเข้ามาขออาศัยบ้านเช่าของนายป้ะ เพื่อนของเขา ได้ประมาณ 15 วัน ซึ่งพี่ชายตนก็เป็นเพื่อนสนิทกับนายป้ะ จึงได้ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ
โดยก่อนหน้านี้ ทราบว่าพี่ชายของตนได้ไปบ้านนายป้ะ และไปนั่งทับลังโฟมใส่ของของนายเบียร์ ทำให้เจ้าตัวไม่พอใจตั้งแต่ตอนนั้น และพูดจาขู่อาฆาตจะกระทืบพี่ชายตนมาตลอด กระทั่งช่วงเย็นเมื่อวานนี้ พี่ชายตนได้นั่งดื่มเบียร์ที่บ้านและแวะไปหานายป้ะ แต่กลับไปเจอนายเบียร์พอดี จึงตรงเข้าไปเพื่อพูดคุยเคลียร์ใจกับนายเบียร์ แต่เจรจากันไม่ลงตัวทำให้ทั้งคู่ชกต่อยกัน
แต่นายเบียร์สู้ไม่ได้ ทำให้เพื่อน ๆ ต้องเข้ามาช่วยกันห้ามปราม และจับทั้งคู่แยกกัน ซึ่งพี่ชายตนก็หยุดแล้ว แต่คาดว่านายเบียร์น่าจะแอบไปหยิบปืนและย้อนกลับมารัวยิงพี่ชายตนถึง 4 นัด ขณะเกิดเหตุพี่ชายตนพยายามเข้าตะลุมบอนอีกครั้ง ทำให้กระสุนเจาะเข้าบริเวณแขนซ้าย 1 นัดและขมับซ้าย 1 นัด ก่อนจะหลบหนีไป
ล่าสุดพี่ชายพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อาการโคม่า ร่างกายไม่ตอบสนอง ชีพจรต่ำลงเรื่อย ๆ เพราะกระสุนฝังในกะโหลก มีอาการเลือดคั่งในสมอง ซึ่งทางญาติก็ทำใจแล้ว
ด้าน นางนุ้ย (นามสมมติ) ภรรยาผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ยืนยันได้ว่าสามีกับผู้ก่อเหตุไม่รู้จักกันมาก่อน และตอนนี้สามีอยู่ในอาการโคม่า ซึ่งตนก็ทำใจไม่ได้เพราะขาดเสาหลักของบ้าน เนื่องจากตนมีลูกชายฝาแฝดถึง 2 คน หลังจากนี้ก็ต้องเป็นคนหาเลี้ยงชีพ ดูแลลูกเพียงผู้เดียว ซึ่งตนก็ต้องสู้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ครอบครัวได้เตรียมใจแล้ว เพราะคิดว่าสามีคงไม่รอดชีวิต และตนก็ไม่อยากยื้อชีวิตให้เขาทรมานอีก และช่วงที่สามีนอนสลบ ตนไปกระซิบข้างหูว่า “ไม่ต้องห่วงลูก เดี๋ยวหนูดูแลลูกเอง” เพราะรู้ว่าสามีห่วงลูกมาก อีกทั้งก่อนหน้านี้สามีก็ยังไม่ได้เจอลูกถึง 3 วัน