Loading...

Monday, February 24, 2020

ป.รวบ พตท.บรรยินกับพวก อุ้มฆ่าเผา พี่ชายผู้พิพากษาฯ

 ข่มขู่ให้พลิกคำตัดสิน คดีหุ้นเสี่ยชูวงษ์ 300 ล้าน ทีมสังหารรับชี้จุดทิ้ง อดีตรมช.ดัง-ปฏิเสธ
“บิ๊กแป๊ะ” นำทีมสืบสวนกองปราบฯ และสืบนครบาลตรวจค้น 21 จุด จ.นครสวรรค์และ กทม. คลี่คลายคดีอุ้มเรียกค่าไถ่พี่ชายผู้พิพากษาหญิง คนถือสำนวน คดีโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ นักการเมืองชื่อดังตกเป็นผู้ต้องหา ตำรวจตามจับถึงบ้านพร้อมพวกรวม 6 คน คุมตัว พ.ต.ท.บรรยินขึ้นเครื่องกลับมาสอบสวนที่กองปราบปราม ให้การปฏิเสธ อ้างยังงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยมีลูกสาวตามมาขอเยี่ยม ยันไม่เชื่อว่าพ่อเกี่ยวข้อง แต่ 1 ในผู้ต้องหาเปิดปาก เหยื่อตายแล้ว หลังทีมอุ้มรู้ว่าแจ้งตำรวจ เอาไปฆ่าในพื้นที่ จ.นครสวรรค์แล้วเผาอำพรางแต่ไม่หมด เลยหั่นเป็น 3 ส่วน ใส่กระสอบไปทิ้งแม่น้ำ ด้านเลขาธิการศาลยุติธรรม แถลงข่าวยาวเหยียด พี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ถูกคนร้ายตามมาอุ้มถึงหน้าศาลตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. มีภาพวงจรปิดชัด หลังจากนั้นโทรศัพท์มาข่มขู่ให้ยกฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตรงๆ ยันไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับศาลมาก่อน ล้อมคอกป้องกันคดีที่เกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลมากขึ้น
กรณีชุดสืบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. ปฏิบัติการบุกตรวจค้น 21 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคลี่คลายคดีอุ้มหายตัวไปของนายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสใน ศาลอาญากรุงเทพใต้ เจ้าของสำนวนคดีปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด กว่า 300 ล้านบาท เพื่อข่มขู่ น.ส.พนิดา ตัดสินยกฟ้องคดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ หลายสมัยพรรคพลังประชาชน ตกเป็นจำเลยร่วมกับ น.ส.กัณฐณา ศิวาธนะพล หรือน้ำตาล และ น.ส.อุรชา พรหมา หรือป้อนข้าว ปลอมและใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265 และมาตรา 268

เปิดปฏิบัติการตรวจค้น 21 จุด
ปฏิบัติการครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 22 ก.พ. ที่จังหวัดนครสวรรค์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. และ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกตุ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.6.บก.ป. และ พ.ต.อ. วิจักขณ์ ตามรมย์ ผกก.สสน.บก.ป. พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมาน กองปราบฯ” และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ นำหมายค้นเข้าตรวจค้นเป้าหมายส่วนใหญ่ใน จ.นครสวรรค์ 19 จุด และกรุงเทพมหานคร 2 จุด

ล็อก “บรรยิน” พร้อมพวก 3 คน
หลังตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ประกอบด้วย พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 221/2563 ลงวันที่ 19 ก.พ.63 ข้อหาร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงาน เป็นซ่องโจร และเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใดฯ นายมานัส ทับนิล อายุ 67 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 222/2563 ลงวันที่ 19 ก.พ.63 ข้อหาร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานฯ เป็นซ่องโจรฯ และเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่โดยหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใดฯ และนายณรงศักดิ์ ป้อมจันทร์ อายุ 49 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 223/2563 ลงวันที่ 19 ก.พ.63 ข้อหาร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานฯ เป็นซ่องโจรฯ และเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่โดยหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใดฯ จับกุมทั้งหมดได้ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์

โทร.ขู่ผู้พิพากษาล้มคดี
รายงานข่าวแจ้งว่า การจับกุม พ.ต.ท.บรรยิน กับพวกอีก 2 คนครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 4 ก.พ.63 น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโส ศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจว่า นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชาย ถูกกลุ่มคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นใครลักพาตัว คนร้ายยังโทรศัพท์มาข่มขู่ว่าจะกักตัวนายวีรชัยไว้ จนกว่าผู้พิพากษาจะพิพากษายกฟ้องคืนหุ้นทั้งหมดที่ พ.ต.ท.บรรยิน กับพวก ตกเป็นจำเลยความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแก่การที่ตนกระทำความผิดเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ หาก น.ส.พนิดาไม่ทำตามจะทำให้พี่ชายหายตัวไป

กองปราบฯ-สืบนครบาลซุ่มทำคดี
หลังเกิดเรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ร่วมกับ พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. สืบสวนคดี เบื้องต้นตำรวจกองปราบปรามสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมีส่วนพัวพันกับการหายตัวไปของนายวีรชัย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 ก.พ. รวบรวมพยานหลักฐานจากการตรวจสอบข้อมูลของกล้องวงจรปิด ข้อมูลการติดต่อสื่อสาร และข้อมูลการใช้รถ จนทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุ ก่อนรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ขออนุญาตศาลอาญาออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด รวมทั้งพยานผู้เกี่ยวข้อง พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องอยู่

จับเพิ่มอีก 3 รวมเป็น 6 คน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หลังเจ้าหน้าที่จับกุมกลุ่มผู้ต้องหาชุดแรก 3 คนแล้ว ขณะนี้สืบสวนขยายผลจนจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้อีก 3 คน ทั้งหมดยังคุมตัวอยู่ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 (บช.ภ.6) ยกเว้น พ.ต.ท.บรรยินถูกควบคุมตัวมาที่กองปราบปราม วันพรุ่งนี้ (24 ก.พ.) ช่วงบ่ายจะนำตัวไปผัดฟ้องฝากขังที่ศาลอาญา นอกจากนี้ วันที่ 25 ก.พ. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนสาเหตุที่ต้องแถลงข่าววันที่ 25 ก.พ. เนื่องจากต้องขยายผลทางคดีอีกหลายอย่าง
 สารภาพฆ่าเผาหั่นศพทิ้งน้ำ
ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. นำตัวผู้ต้องหา 1 คนที่รับสารภาพไปชี้จุดทิ้งชิ้นส่วนศพบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่หมู่ 3 ต.กลางแดด อ.เมืองนครสวรรค์ หลัง 1 ใน 3 ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า หลังจากอุ้มนายวีรชัยไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ.แล้ว นำไปฆ่าในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ แล้วนำไปเผาเพื่ออำพรางคดีแต่เผาไม่หมด ตัดสินใจหั่นศพเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนหัว สะโพก และขา นำใส่กระสอบ 3 ใบ โยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหมู่ 3 ต.กลางแดด อ.เมืองนครสวรรค์ 2 ถุง ส่วนอีก 1 ถุงนำไปโยนทิ้งที่แม่น้ำปิง บริเวณวัดไทรใต้ ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ ห่างกันประมาณ 10 กม.

งมหาศพในเจ้าพระยายังเหลว
การงมหาชิ้นส่วนศพครั้งนี้ ใช้กำลังตำรวจน้ำ 10 นาย มูลนิธิเจ้าพ่อกวนอูกู้ภัยนครสวรรค์ 10 นาย ลงเรือยาว 2 ลำ และเรือไฟเบอร์ 1 ลำ แบ่งพื้นที่ค้นหา ตำรวจน้ำค้นหาในพื้นที่ประมาณ 50 เมตร ส่วนเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯค้นหาในพื้นที่ต่อไปอีก 50 เมตร เบื้องต้นคาดว่าชิ้นส่วนอวัยวะน่าจะลอยจากจุดโยนทิ้งประมาณ 8-10 เมตรถึงจมลง แต่จากข้อมูลทราบว่า ถุงที่ใช้บรรจุชิ้นส่วนไม่ได้มัดปากถุง คาดว่าชิ้นส่วนต่างๆน่าจะกระจายและถูกน้ำพัดหายไป การค้นหายังไม่พบของกลางหรือหลักฐานใดๆ ก่อนปฏิบัติการค้นหา พล.ต.อ.จักรทิพย์ฟังบรรยายข้อมูลจากเจ้าหน้าที่พร้อมกำชับพยายามหาให้พบก่อนเดินทางกลับทันที
ลูกสาวขอความเป็นธรรม
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 14.30 น. น.ส.บุษยา ตั้งภากรณ์ หรือเบล ลูกสาว พ.ต.ท.บรรยิน เดินทางมาที่กองปราบปราม หลังทราบข่าวว่า พ.ต.ท.บรรยิน บิดาถูกจับกุมเมื่อช่วงเช้า น.ส.บุษยากล่าวว่า ทราบข่าวจากน้องชายโทรศัพท์มาบอกมาว่าพ่อถูกตำรวจกองปราบฯจับกุม กำลังเอาตัวมาสอบสวนที่กองปราบฯ อีกทั้งบ้าน ที่ จ.นครสวรรค์ถูกตำรวจเข้าค้น ส่วนตัวไม่ทราบว่าพ่อถูกจับความผิดใด ถ้าเป็นคดีที่พ่อตกเป็นผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างศาลพิจารณาคดี ส่วนตัวไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อทำมีเหตุผลเสมอ ตอนนี้ทุกคนอาจมองว่าพ่อเป็นคนผิดไปแล้ว แต่ส่วนตัวคุณพ่อเป็นคนดีมาก เขาแค่เป็นคนจริง ขอร้องสื่อมวลชนว่าอย่าเพิ่งไปลงข่าวโจมตี ส่วนตัวเชื่อว่าพ่อไม่ได้เกี่ยวกับการฆ่าครั้งนี้ คุณพ่อเป็นคนธรรมดา มีศัตรูเยอะ คนใส่ร้ายป้ายสีตลอด อยู่กับพ่อมาทั้งชีวิตเป็นคนดีมาก วันนี้อยากขอความเป็นธรรมให้ครอบครัว เพราะเชื่อว่าตลอดเวลาครอบครัวถูกกลั่นแกล้ง

คุมตัว “บรรยิน” ถึงกองปราบฯ
ต่อมาเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมาน กองปราบ” ควบคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ขึ้นเครื่องจาก จ.นครสวรรค์ มาถึงกองปราบฯ พ.ต.ท.บรรยินอยู่ในสภาพถูกใส่กุญแจมือไพล่หลัง แต่ยังคงสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกล่าวสั้นๆกับผู้สื่อข่าวว่า “รู้สึกยังงงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถูกคุมตัวตั้งแต่ 6 โมงเช้า และมั่นใจว่าตัวเองบริสุทธิ์ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่จนถึงขณะนี้ยังติดต่อทนายความไม่ได้ “ก่อนถูกคุมตัวขึ้นไปที่ชั้น 8 อาคารกองปราบปราม ขณะที่ น.ส.บุษยา ลูกสาว พยายามเรียก พ.ต.ท.บรรยิน ขอพูดคุย แต่ตำรวจยังไม่อนุญาตให้เข้าไป

จนกระทั่งเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่นำตัว พ.ต.ท.บรรยินไปควบคุมในห้องขังชั้น 1 อาคารกองปราบปราม มีรายงานด้วยว่า สำหรับการตรวจค้นเป้าหมายใน กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่นำรถจักรยานยนต์ฮอนด้าดรีม สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 1 กณ 8917 นครสวรรค์ หมวกกันน็อกสีเทา 2 ใบ และพยานหลักฐานอื่นๆ บรรจุถุงกว่า 10 ใบ ที่ยึดมาได้มาเก็บไว้ที่กองปราบปราม

เลขาศาลฯแถลงนาทีอุ้ม
เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของบุคลากรศาลยุติธรรม นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการศาลยุติธรรม เปิดแถลงข่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เมื่อวันที่ 4 ก.พ. เวลาประมาณ 17.30 น. มีคนร้ายเท่าที่ปรากฏหลักฐาน 3-4 คน ร่วมกันอุ้มลักพาตัวนายวีรชัยหายขึ้นรถที่เตรียมมาบริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังลักพาตัววันเดียวกัน กลุ่มคนร้ายโทรศัพท์เข้ามาหา น.ส.พนิดา ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน และเป็นน้องสาวนายวีรชัยเพื่อข่มขู่ ขอให้ยกฟ้องคดีโอนหุ้น นายชูวงษ์ หลังจากนั้น น.ส.พนิดาเข้าเเจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกเทปสนทนาการข่มขู่ดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน ทางสำนักงานศาลยุติธรรมและศาล อาญากรุงเทพใต้ ประสานทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตั้งทีมสืบสวนขึ้นมาในวันดังกล่าวทันที

มูลเหตุจากคดีหุ้นเสี่ยชูวงษ์
“ชุดสืบสวนสอบสวนที่ตั้งขึ้นติดตามคดีเรื่อยมา เเต่ด้วยความห่วงใยเรื่องความปลอดภัยของ ตัวประกัน เรื่องดังกล่าวจึงต้องอยู่ในชั้นความลับไม่สามารถเป็นข่าวได้ ทางทีมสืบสวนสอบสวนสามารถสืบจนทราบว่ามีผู้เกี่ยวข้องก่อเหตุคือใครบ้าง จนทราบว่ามีคดีที่เกี่ยวพันกับเหตุการณ์ลักพาตัว ครั้งนี้ 2 คดีคือ คดีฆาตกรรมนายชูวงษ์ เเละคดีโอนหุ้น 300 ล้านบาท เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ทีมสืบสวนติดตามสถานที่กบดานของคนร้าย จนเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ขอให้ศาลอาญาออกหมายจับจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ตามที่เป็นข่าว นอกจากนี้ยังขอหมายค้น 20 กว่าจุดในการหาพยานหลักฐานมัดตัวคนร้าย ทราบมาว่าตอนนี้จับคนร้ายได้ 3 คนเเล้ว กำลังตามจับบางส่วนที่หลบหนีอยู่ ส่วนเรื่องจำนวนคนร้าย ถ้าสืบสวนเกี่ยวพันถึงใคร ตำรวจจะขอหมายจับเพื่อจับกุมดำเนินคดีต่อไป” นายสราวุธกล่าว

ผู้พิพากษาหญิงยังเสียใจ
เลขาธิการศาลยุติธรรมกล่าวต่อว่า วันนี้ตนพร้อมด้วยนายอาคม รุ่งแจ้ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ นายชนาธิป เหมือนพะวงศ์ รองเลขาธิการประธานศาลฎีกา เป็นตัวเเทนนายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา ที่ติดภารกิจเดินทางไปประชุมต่างประเทศ เดินทางไปให้กำลังใจ น.ส.พนิดา และเเจ้งข่าวให้ได้ทราบ น.ส.พนิดายังอยู่ ในภาวะเสียใจ สำนักงานศาลดูเเลความปลอดภัยตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. เราประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดหน่วยคุ้มกันดูแลความปลอดภัยมาตลอด ปัจจุบันท่านยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

เข้มดูแลศาลคดีอิทธิพล
นายสราวุธกล่าวอีกว่า หลังจากวันนี้เรื่องการคุ้มกันนอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เจ้าพนักงานตำรวจศาลหรือคอร์ท มาร์แชล จะเข้าไปเสริมการดูแลเรื่องคุ้มกัน และการเดินทางปฏิบัติหน้าที่ คดีนี้หลักฐานทั้งหมดที่ศาลเรามี เราส่งให้ตำรวจกองปราบปรามหมดแล้ว กล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คนได้ ตั้งแต่มาดักรอที่หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ ก่อนลักพาตัวประมาณ 1 ชม. ส่วนเรื่องวงจรปิดจับภาพนายบรรยินได้หรือไม่ ต้องถามเจ้าหน้าที่ ซึ่งแจ้งว่ามีพยานหลักฐานครบถ้วนในการออกหมายจับนายบรรยินกับพวก รายละเอียดอยู่ในสำนวนสอบสวนที่ตำรวจจะแถลงต่อสื่อมวลชนเอง เรื่องนี้เราต้องขอบคุณ ผบ.ตร.ที่ให้ความสำคัญอย่างมาก จนสามารถจับตัวคนร้ายได้

“บิ๊กแป๊ะ” รายงานคดีทางลับ
“ช่วงที่ผ่านมานายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกาให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ท่านจะพูดทุกครั้งในการประชุม ก.ต.หรือ อก.บ.ศ. เรื่องด้วยความห่วงใยความปลอดภัยของผู้ถูกลักพาตัว แต่เราต้องเก็บเป็นความลับเพื่อคำนึงความปลอดภัย ที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.รายงานความคืบหน้าให้นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา ทราบความคืบหน้าอยู่เป็นระยะมาตลอด” เลขาฯสำนักงานศาลยุติธรรมกล่าว

เป็นคดีแรกจับตัวประกันต่อรองคดี
เลขาธิการศาลกล่าวด้วยว่า เหตุการณ์การจับตัวประกันเพื่อต่อรองให้ตัดสินคดีที่เกิดขึ้น นับว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นในศาลยุติธรรมมาก่อน ถือว่าเป็นเรื่องกระทบความเป็นอิสระในการพิจารณาพิพากษาคดีของผู้พิพากษา หลังจากนี้หน่วยของศูนย์รักษาความปลอดภัยตาม พ.ร.บ.ตำรวจศาล มาตรา 5 ที่มีหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่และความปลอดภัยของตัวบุคคล สำนักงานศาลยุติธรรมจะต้องวางมาตรการในเชิงป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น ต่อไปถ้าหากมีคดีสำคัญหรือเกี่ยวพันกับผู้มีอิทธิพลเราจะต้องวิเคราะห์เรื่องการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิด เราอาจต้องมีการอารักขาตัวองค์คณะ ดังนั้นเราจึงต้องมีการเพิ่มอัตรากำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาลโดยเร็ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการอบรมเพื่อบรรจุแต่งตั้งชุดใหม่ให้ได้คุณภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด

พี่เสี่ยชูวงษ์แฉ “บรรยิน” รู้ตัวว่าแพ้
นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ อายุ 58 ปี พี่สาวนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด เผยว่า นายชูวงษ์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2558 เป็นเวลา 4 ปีกว่า ศาลสืบพยานปีกว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่า คดีโกงหุ้นที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นคดีที่จะชี้ถึงมูลเหตุจูงใจการฆาตกรรม หลังเราฟ้องเองและสืบพยานไปสักพัก พนักงานอัยการขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ แล้วอัยการสืบเต็ม พ.ต.ท.บรรยิน มาฟังการสืบพยานตลอด คงมองเห็นว่า คดีนี้จะไปทางใดเพราะเขาเป็นตำรวจเก่า จึงพยายามร้องเรียนหรือขอเปลี่ยนตัวผู้พิพากษา รวมทั้งร้องถึงศาลฎีกา แต่ไม่มีผลอะไร เพราะไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้พิพากษา ส่วนคดีฆ่าที่ศาลอาญาพระโขนง จำหน่ายคดีชั่วคราว จะเริ่มสืบต่อทันทีต้นเดือน เม.ย.นี้ หลังจากคดีโกงหุ้นที่ศาลอาญากรุงเทพใต้จะอ่านคำพิพากษาวันที่ 20 มี.ค. เพราะมูลความแห่งคดีมีความเกี่ยวพันกัน หากผลคำพิพากษาออกมาจะร้องขอรวมสำนวนไว้ด้วยกัน และขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียคนในครอบครัวของท่านผู้พิพากษาในที่นี้ด้วย

กลัวคดีหุ้นเพิ่มน้ำหนักคดีฆ่า
มีรายงานว่า สำหรับคดีฆ่านายชูวงษ์แบ่งเป็น 2 ส่วน คดีแรกเป็นคดีฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ เป็นจำเลยฐานจ้างวานใช้ผู้อื่น ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตาม ปอ.มาตรา 289 (4) ประกอบ 84 คดีพักการพิจารณาโดยจำหน่ายคดีชั่วคราวมาตั้งแต่กลางปี 62 และนัดพิจารณาอีกครั้งเดือน เม.ย.63 สำหรับคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ญาตินายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.กัณฐณา ศิวาธนะพล หรือน้ำตาล จำเลยที่ 1 พริตตี้สาวที่ตั้งครรภ์ แต่ไม่ยอมให้ตรวจดีเอ็นเอ น.ส.อุรชา พรหมา หรือป้อนข้าว จำเลยที่ 2 เคยถูกจับพร้อมนายบรรยินที่เขาใหญ่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ จำเลยที่ 3 เป็นจำเลยฐานปลอมเอกสารสิทธิ ใบหุ้น และใช้เอกสารปลอม ทำให้เกิดการทุจริตโอนหุ้นของนายชูวงษ์ออกไปให้บุคคลต่างๆเสียหายรวม 300 ล้านบาท ต่อมาพนักงานอัยการร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ สืบพยานฝ่ายจำเลย 23 นัด เพิ่งสืบจบไป ในการสืบพยานจำเลยพูดถึงความเกี่ยวพันระหว่างนายชูวงษ์ผู้ตายกับ พ.ต.ท.บรรยินที่สนิทสนมกันถึงขนาดเคยคิดจะร่วมกันดำเนินกิจกรรมทางการเมืองด้วย

1 ในแก๊งอุ้มใส่เครื่องแบบตำรวจ
มีรายงานจากชุดสืบสวนเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของศาลอาญากรุงเทพใต้วันเกิดเหตุช่วงเวลา 16.00-17.00 น. วันที่ 4 ก.พ. บันทึกภาพเหตุการณ์คนร้าย 4 คนมาดักรอนายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ ที่หน้าศาลฯ โดย 1 ใน 4 คนร้ายสวมใส่เครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ พอเห็นนายวีรชัยลงจากรถแท็กซี่ คนร้ายตรงเข้าไปคุมตัวขึ้นรถเหมือนเข้าจับกุมผู้ต้องหาตามปกติแล้วขับรถออกไป ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี พบคนร้ายขับไปตามถนนพระราม 5 ออกไป อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังจากนั้นมุ่งหน้าขึ้นไปแยกสามชุก จ.สุพรรณบุรี เข้าเขต จ.ชัยนาท เลี้ยวขวามุ่งหน้าไปสิ้นสุด จ.นครสวรรค์

ซัด “บรรยิน” เป็น 1 ใน 4 ทีมอุ้มหน้าศาล
จากการสอบสวนผู้ต้องหาที่ให้การรับสารภาพ ชุดสืบสวนกองปราบปรามยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังแก๊งอุ้มใช้ผู้ต้องหาที่แต่งเครื่องแบบตำรวจไปเชิญ นายวีรชัยขึ้นรถแล้วรีบโทรศัพท์ติดต่อ น.ส.พนิดา ผู้พิพากษา ข่มขู่ให้ยกฟ้องคดีโอนหุ้นนายชูวงษ์ แต่ หลังจากนั้นกลับมีตำรวจโทร.กลับมาหา ทำให้แก๊งอุ้มตกใจ ระหว่างทางลงมือทำร้ายนายวีรชัยภายในรถจนเสียชีวิต ขณะขับรถผ่านถนนย่านบางบัวทอง จึงตัดสินใจเอาศพไปชำแหละบริเวณเขาใบไม้ จ.นครสวรรค์ แล้วเอาไปทิ้งแม่น้ำอำพรางคดี นอกจากนี้จากการสอบปากคำ 1 ในผู้ต้องหาให้การซัดทอดด้วยว่า พ.ต.ท.บรรยินเป็น 1 ใน 4 ผู้ต้องหาที่ไปอุ้มเหยื่อที่หน้าศาลด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ขบวนการนี้มีด้วยกันทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย พ.ต.ท.บรรยิน ผู้บงการ นายมานัส ทับนิล ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาคนและขับรถรับส่งคนมาก่อเหตุ ส่วนนายณรงค์ศักดิ์และชายฉกรรจ์อีก 3 คน ประกอบด้วย นายประชาวิทย์ ศรีทองสุข นายชาติชาย เมณฑ์กุล และนายธงชัย วลีสัจจะ หรือ ส.จ.อ๊อด เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ
Loading...