Loading...

Friday, February 21, 2020

สมเกียรติยศ 2 อรินทราช พระราชทานน้ำหลวง (คลิป)



เคลื่อนขบวน-อาลัยผู้กล้า ศพจ่าทมิฬไม่มีญาติไปรับ จับ 3 คะนองเลียนขู่ห้างดัง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเสียพระราชหฤทัยต่อเหตุการณ์จ่าทหารคลั่งบุกยึดห้างดังยิงดะเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ จ.นครราชสีมา ทรงรับศพผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ส่วนศพผู้เสียชีวิตมีการระดมแพทย์นิติเวชเร่งชันสูตรครบทั้ง 30 ศพแล้ว รอญาติรับกลับ ส่วนจ่าโหดยังไม่มีใครมายื่นขอรับศพ ขณะที่ศพ 2 ตำรวจอรินทราช เคลื่อนเข้ากรุงไปประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพที่วัดตรีทศเทพฯอย่างสมเกียรติ มีนายกรัฐมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ร่วมไว้อาลัย ด้าน ด.ต.ถูกยิงดับคารถสายตรวจ ต้นสังกัดเสนอเลื่อนขั้นเป็น พ.ต.ท. แต่ภรรยาไม่มีงานทำ ส่วนพวกคะนองขู่เลียนแบบจ่าคลั่งโดนรวบตั้งข้อหาหนัก
แม้ว่าเหตุการณ์คลั่งฆ่าหมู่กลางเมืองโคราชยุติลง โดยตำรวจทีมพระกาฬ 4 ชุด นำโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. บุกเข้า “จับตาย” จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา หรือจ่าพันธ์ อายุ 32 ปี สังกัดกรม สรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2) ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา คาห้องเย็นชั้นใต้ดินห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช กลางเมืองนครราชสีมา ช่วงเช้าวันที่ 9 ก.พ. หลังชักปืนสังหาร พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ผบ.พัน. กระสุน 22 (บชร.2) ผู้บังคับบัญชา กับนางอนงค์ มิตรจันทร์ แม่ยาย คาบ้านเพราะทะเลาะกันเรื่องเงินค่านายหน้าที่ดิน ก่อนบุกปล้นคลังอาวุธขโมยปืนเอชเค และปืนกลเอ็ม 60 พร้อมกระสุนหลายร้อยนัด ขับรถฮัมวียิงดะประชาชนผู้บริสุทธิ์ตามรายทางแล้วบุกยึดห้างดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 30 ศพ รวมทั้งจ่าคลั่งผู้ก่อเหตุ มีผู้บาดเจ็บรวม 58 คน แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังร้าวลึกส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะญาติและคนใกล้ชิดเหยื่อคลั่ง

เคลื่อนศพ 2 ตำรวจฮีโร่อย่างสมเกียรติ
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 10 ก.พ. ที่แผนกนิติเวช รพ.มหาราชนครราชสีมา ญาติและเพื่อนตำรวจ กก.ต่อต้านการก่อการร้าย (อรินทราช 26) ติดต่อขอรับศพ ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา อายุ 35 ปี และ ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย อายุ 35 ปี หน่วย อรินทราช 26 ตำรวจฮีโร่พลีชีพขณะร่วมปฏิบัติการสยบคลั่ง “จับตาย” จ่าโหด โดยศพ ร.ต.อ.ตระกูล มีน้าชายกับญาติมารับ เนื่องจากพ่อแม่รออยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วน ด.ต.เพชรรัตน์ มีนางนิภา กำจัดภัย มารดามารับศพ โดย พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบช.ภ.3 มาอำนวยความสะดวก มีตำรวจ ภ.จ.นครราชสีมา ตั้งแถวเคลื่อนศพตำรวจกล้าบรรจุในโลงไม้คลุมด้วยธงชาติขึ้นรถยีเอ็มซีทหาร 2 คัน ไปที่กองบิน 1 นครราชสีมา ขึ้นเครื่องบินคาซ่าเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อทำพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพที่วัดตรีทศเทพวรวิหาร ก่อนนำศพ ร.ต.อ.ตระกูลไปบำเพ็ญกุศลที่วัดดงมะตืน จ.เชียงราย

 เพื่อนร่วมอาชีพตั้งแถวรอรับ
สำหรับบรรยากาศภายในศาลา 5-1 วัดตรีทศเทพวรวิหาร ในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ฝ่ายฌาปนกิจสงเคราะห์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อรอรับในพิธีบำเพ็ญกุศลศพและพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา หรือผู้กองปุ๊ อายุ 35 ปี ผบ.หมวด (สบ 1) กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. และ ด.ต. เพชรรัตน์ กำจัดภัย หรือครูเพชร อายุ 35 ปี ผบ.หมู่ กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. มีเพื่อนข้าราชการตำรวจสังกัด บก.สปพ. ตั้งแถวรอรับศพ อีกทั้งมีนายตำรวจระดับสูงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผบก. ผกก.ในสังกัด บช.น. ข้าราชการตำรวจในสังกัด บช.ก. และ บช.น.ร่วมรอรับ 2 อรินทราช 26 ผู้กล้า

จัดสถานที่รองรับผู้ร่วมไว้อาลัย
ขณะที่ พ.ต.ต.ธีร์ธดลว์ พันธ์สนิท สว.ฝ่ายฌาปนกิจสงเคราะห์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังขบวนเกียรติยศนำร่างของนายตำรวจทั้ง 2 นายมาถึง จะนำเข้าไปตั้งไว้ภายในศาลาเพื่อให้ ผู้บังคับบัญชา ญาติ และเพื่อนข้าราชการตำรวจรดน้ำศพ จากนั้นในเวลา 17.00 น. จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพอีกครั้ง ทั้งนี้ ได้เตรียมสถานที่ไว้รองรับสำหรับประชาชนทั่วไปที่จะร่วมไว้อาลัยของวีรบุรุษทั้งสองคนบริเวณโดยรอบศาลาไว้ด้วย

ทั้งคู่จบหลักสูตรหิน นเรศวร 261
สำหรับประวัติ ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา ผบ.หมวด (สบ 1) กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. จบหลักสูตรการต่อต้านการก่อการร้าย (นเรศวร 261) รุ่นที่ 14 บก. สอ.บช.ตชด., หลักสูตรทำลายวัตถุระเบิด กองสรรพาวุธ รุ่น 13, หลักสูตรการกระโดดร่มแบบกระตุกเอง บก.สอ.บช.ตชด. ส่วน ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย ผบ.หมู่ กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ.จบหลักสูตรนักเรียนนายสิบตำรวจ รุ่นที่ 1, หลักสูตรการต่อต้านการก่อการร้ายนเรศวร 261 รุ่นที่ 12, หลักสูตรการทำลายวัตถุระเบิดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รุ่นที่ 14, หลักสูตรการโดดร่มแบบกระตุกเอง 1/2562, หลักสูตรกระโดดร่มกองทัพเรือปี 2562



ร่าง 2 อรินทราช จากโคราชถึง กทม.
กระทั่งเวลา 13.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 ถนนพหลโยธิน เครื่องบินคาซ่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำร่างวีรบุรุษอรินทราช 26 ผู้วายชนม์ 2 นาย คือ ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา ผบ.หมวดกองร้อย ปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย (อรินทราช 26) กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) และ ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย ผบ.หมู่ กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย (อรินทราช) กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) ที่ “พลีชีพ” สังเวยร่างจากการปะทะเดือดกลางห้างดังเมืองโคราช ที่ถูกเคลื่อนย้ายจากกองบิน 1
จ.นครราชสีมา เดินทางมาถึง

กองเกียรติยศ 1 กองร้อยรอรับ
ขณะเดียวกัน มีครอบครัวของตำรวจที่เสียชีวิตพร้อมผู้บังคับบัญชามารอรับ ประกอบด้วย พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รองจเรตำรวจ ปฏิบัติหน้าที่รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. และข้าราชการตำรวจในสังกัด บช.น. ตั้งแถวกองขบวนเกียรติยศกำลังพล 1 กองร้อยรอรับอย่างสมเกียรติ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
 เคลื่อนศพไปวัดตรีทศเทพฯ
ทันทีที่เครื่องบินจอดสนิท ประตูท้ายเครื่องเปิด ให้พระสงฆ์ทำพิธี เจ้าหน้าที่เป่าแตรสดุดีวีรกรรม ญาติผู้กล้าทั้ง 2 นาย ถือรูปถ่ายผู้ตาย และกระถางธูปนำหน้า นำหีบบรรจุศพทั้ง 2 นายที่คลุมธงชาติไทย ขึ้นรถยนต์หีบศพละคัน มุ่งหน้าไปทำพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพที่วัดตรีทศเทพวรวิหาร สำหรับเส้นทางขบวนเกียรติยศ เริ่มตั้งแต่ บน.6 ใช้ถนนเทวฤทธิ์พันลึก เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิภาวดีขาเข้า เพื่อขึ้นยกระดับโทลล์เวย์ ใช้เส้นทางด่วนดินแดง มุ่งหน้ายมราช แล้วลงด่วนยมราช ก่อนเข้าถนนหลานหลวง เลี้ยวขวาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เข้าถนนดินสอ จากนั้นเข้าวัดตรีทศเทพวรวิหาร แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ในเวลา 14.10 น.

ผู้การ 191 นำแบกหีบศพผู้กองปุ๊
เมื่อขบวนรถเกียรติยศ 2 นายตำรวจได้เดินทางมาถึงวัดตรีทศเทพวรวิหาร เป็นสถานที่ประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ได้นำหีบศพบรรจุร่างทั้ง 2 นายลงจากรถก่อนจะเคลื่อนลงมายังศาลา 5/1 มี พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.บก.สปพ. เป็นผู้นำแบกหีบศพที่บรรจุร่าง ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา ส่วนหีบศพที่บรรจุร่าง ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย หรือครูเพชร มีเพื่อนร่วมหน่วยอรินทราช 26 แบกเข้าในศาลา ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ในเวลา 17.00 น.


ปีติพวงมาลา ร.10–พระราชินี
ต่อมา 15.30 น. เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเป็นตัวแทนผู้แทนในการอัญเชิญพวงมาลาพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์วางหน้าหีบศพ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ร่วมแสดงความเสียใจและมอบเงินช่วยเหลือกับญาตินายตำรวจทั้ง 2 นาย ก่อนที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี เป็นผู้แทน พระองค์ในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และข้าราชการระดับสูงเข้าร่วมพิธี บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

สวด 1 คืนก่อนนำศพกลับภูมิลำเนา
มีรายงานว่า จะมีการประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพของตำรวจทั้ง 2 นาย ที่วัดตรีทศเทพฯ 1 คืน หลังจากนั้น ญาติจะนำศพแยกไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา โดย ร.ต.อ.ตระกูล ญาติจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนาที่ จ.เชียงราย ส่วน ด.ต.เพชรรัตน์ ญาติจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบึงทองหลาง กรุงเทพฯ
 พระราชทานกำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย
ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงแสดงความเสียพระราชหฤทัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 และพระราชทานกำลังใจให้แก่ครอบครัวผู้สูญเสียและเจ้าหน้าที่ทุกคน พร้อมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานรับศพผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมและพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ

อีกทั้งยังโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากสำนักพระราชวัง และหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ เป็นผู้แทนพระองค์ไปเยี่ยมเยียนผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้สูญเสียทุกราย ตลอดจนการจัดตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการพิสูจน์หลักฐาน และทำความสะอาดสถานที่ให้เรียบร้อย จนกว่าจะจบภารกิจ พร้อมกันนี้ ทรงรับสั่งให้รัฐบาลดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนและเจ้าหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่มีพระเมตตาต่อพสกนิกรชาวไทยทุกคน

สังฆราชประทานกัปปิยภัณฑ์
สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช มีหนังสือแจ้งไปยังนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงปรารภห่วงใยผู้ประสบเหตุและผู้สูญเสีย จากเหตุการณ์คนร้ายประทุษร้ายประชาชนที่ จ.นครราชสีมา โปรดประทานผ้าไตร 1 ไตร พร้อมมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์เท่าจำนวน 10,000 บาท ประทานแก่ทายาทของเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ เพื่อช่วยการบำเพ็ญกุศลศพทุกราย และโปรดประทานเหรียญพระรูป พร้อมทั้งมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์เท่าจำนวน 10,000 บาท ประทานแก่ผู้บาดเจ็บทุกรายเพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลพระบรมราชานุเคราะห์ในการรักษาพยาบาล โปรดให้นายเทวัญเป็นผู้เชิญสิ่งของและกัปปิยภัณฑ์ประทานไปมอบแก่เจ้าภาพศพและผู้บาดเจ็บทุกรายตามพระประสงค์

แฉภรรยาถูกยิงตายพร้อมเพื่อน 4 ศพ
ขณะเดียวกัน ญาติเหยื่อรายอื่นๆทยอยขอรับศพอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย ร.ต.โกสีย์ จันทร์เพ็ง อายุ 55 ปี นายทหารยานยนต์ สังกัดค่ายกฤษสีวะรา จ.สกลนคร กับญาติมาขอรับศพนางพัชรา จันทร์เพ็ง อายุ 54 ปี เป็นครู ร.ร.บ้านกกปลาซิว อ.ภูพาน กล่าวว่า ตนและภรรยามาร่วมงานเลี้ยงรุ่น ก่อนเกิดเหตุภรรยากับเพื่อนรวม 5 คน ไปทำบุญที่วัดป่าศรัทธารวม ระหว่างเดินทางกลับถูกคนร้ายกราดยิงถล่มตายคารถพร้อมเพื่อน 4 ศพ เพื่อนอีกคนรอดชีวิตมาได้

รปภ.ฮีโร่ใช้ร่างบังกระสุนช่วยเด็กตัวเองดับ
ร.ต.ท.ณรงค์ บุญเอื้อ อายุ 63 ปี อดีต รอง สวป.สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ กับญาติมารับศพนายอำนาจ บุญเอื้อ อายุ 48 ปี รปภ.ห้างเทอร์มินอล 21 รปภ.ฮีโร่ใช้ตัวบังกระสุนให้เด็กที่มาเที่ยวห้าง เด็กรอดชีวิตมาแล้วแต่ตัวเองต้องสังเวยชีวิตเสียเอง ญาติจะนำศพไปไว้วัดหนองบัว ต.หนองโพธิ์ อ.เมือง นครราชสีมา ส่วนศพ น.ส.กรรณิกา การบรรจง อายุ 22 ปี พนักงานแผนกเบเกอรีร้านฟู้ดแลนด์ ชั้นใต้ดินห้างดังกล่าว มีนายลอย การบรรจง อายุ 56 ปี พ่อและนายกันต์ธีร์ หวังประสพกลาง อายุ 23 ปี สามีคนขี่รถ จยย.รับจ้างวินหน้าห้างดังกล่าว ขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 12 ต.ชีวึก อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา โดยนายกันต์ธีร์เล่าว่า วันเกิดเหตุกำลังจะเข้าไปหาภรรยาในห้าง แต่คนร้ายบุกเข้ามาพอดีจนเกิดชุลมุน ตนซ่อนตัวอยู่ชั้นใต้ดินส่วนภรรยาทราบจากการติดต่อทาง “ไลน์” ว่าถูกยิงบาดเจ็บอยู่ในห้องเย็น แต่ตนไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ เพราะคนร้ายเฝ้าอยู่ด้านหน้า จนตำรวจบุกจับตายคนร้าย แต่ภรรยาของตนได้เสียชีวิตลงแล้ว

เศร้าพลทหารถูกยิงก่อนกลับบ้าน 2 วัน
อีกรายนายอุดม ปะโกทะสังข์ อายุ 68 ปี บ้านเลขที่ 53 หมู่ 6 ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พร้อมญาติมารับศพพลฯเมธา เลิศศิริ ทหารเกณฑ์สังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 หลานชาย เป็นพลทหารที่เฝ้าคลังอาวุธที่ถูก จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ยิงตายขณะบุกปล้นปืนและกระสุน นายอุดม มีศักดิ์เป็นตา กล่าวว่า เลี้ยงดู พลฯเมธาตั้งแต่เล็กๆ เพราะพ่อแม่แยกทางกัน พลฯเมธาเป็นกำลังสำคัญของครอบครัว ช่วยงานเกษตรที่บ้านทุกอย่าง เป็นทหารเกณฑ์ ก่อนเกิดเหตุบอกว่าอีก 2 วัน จะลากลับไปช่วยงานบ้าน 1 เดือน แต่ยังไม่ทันเดินทางก็มาเกิดเหตุร้ายขึ้นก่อน ส่วนศพจะมารับกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านในวันที่ 11 ก.พ.

ระดมแพทย์นิติเวชชันสูตรศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทาง รพ.มหาราชนครราชสีมา ได้ระดมทีมแพทย์นิติเวชจาก จ.สุรินทร์ และบุรีรัมย์ มาร่วมผ่าชันสูตรศพเพื่อให้เสร็จภายในวันนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.พ. แพทย์ชันสูตรศพได้เพียง 4 ราย ซึ่งทีมแพทย์ทำงานได้สำเร็จลุล่วงตามแผนงาน สามารถชันสูตรที่เหลือเสร็จสิ้นแล้วทั้ง 30 ศพ รายสุดท้ายที่ผ่าพิสูจน์คือศพ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ผู้ก่อเหตุฆ่าคลั่งเขย่าเมือง โดยมีญาติขอรับศพกลับไปแล้วรวมทั้งสิ้น 21 ศพ เหลืออีก 9 ศพ ญาติอยู่ระหว่างดำเนินการทางเอกสาร ส่วนเหยื่อโหด 3 ศพ พ่อแม่ลูกคือนายสุริยะ ลิมป์รัชตามร อายุ 44 ปี นางปภัชญา นวลรักษา อายุ 33 ปี กับ ด.ช.ปรมะ ลิมป์รัชตามร อายุ 1 ขวบ ญาติแจ้งความจำนงจะมารับศพวันที่ 12 ก.พ. แต่ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ผู้ก่อเหตุ ยังไม่มีญาติมาติดต่อขอรับศพแต่อย่างใด

ตั้งโต๊ะอำนวยความสะดวกเหยื่อคลั่ง
นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ประกันสังคม และเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัดนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต ตั้งโต๊ะอยู่บริเวณแผนกนิติเวช เพื่อรับเรื่องอำนวยความสะดวกแก่ทายาทผู้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กล่าวว่า รมว.สาธารณสุขสั่งการให้เจ้าหน้าที่จากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคจากศูนย์ขอนแก่น และนครราชสีมา มาเยียวยาฟื้นฟูจิตใจญาติผู้เสียชีวิต และคนเจ็บ รวมถึงผู้อยู่ในเหตุการณ์ แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บทางกาย แต่มีความหวาดกลัว มี
 คนแห่วางดอกไม้ไว้อาลัยหน้าห้าง
ที่หน้าห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 มีประชาชนจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นญาติมิตรและคนรู้จักกับผู้เสียชีวิตในห้าง นำช่อดอกไม้ เขียนข้อความไว้อาลัยผู้เสียชีวิตและให้กำลังใจคนในครอบครัวผู้เสียชีวิต ตั้งแต่เวลา 05.00 น. บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย หนึ่งในนั้นคือนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา นำดอกกุหลาบสีแดงไปวางแสดงความอาลัยและร่วมเขียนข้อความแสดงความเสียใจด้วย

นิมนต์พระเชิญวิญญาณหนุ่มวิศวะ
นอกจากนี้ ทางครอบครัวพละสาร ได้นำพระสงฆ์จำนวน 1 รูป มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ นายพีรพัฒน์ พละสาร อายุ 27 ปี วิศวกรโยธาของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ถูกทหารคลั่งใช้ปืนยิงจนเสียชีวิตในรถยนต์ปาเจโร บนเกาะกลางถนนมิตรภาพ หน้าห้างเทอร์มินอล 21 เพื่อเชิญดวงวิญญาณกลับบ้านเกิดที่จังหวัดนครปฐม บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า


อยากให้ลูกเป็นตำรวจตามฝันพ่อ
ส่วน ด.ต.ชัชวาลย์ แท่งทอง อายุ 51 ปี รอง ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองนครราชสีมา ถูกยิงตายคารถสายตรวจ บริเวณวัดป่าศรัทธารวม นางณัฏฐา รัตนรักษ์ อายุ 33 ปี ภรรยา พร้อมลูกสาววัย 6 ขวบและญาติมาขอรับศพด้วยสีหน้าเศร้าสลด มีขบวนรถเกียรติยศของทหารค่ายสุรธรรมพิทักษ์ รับศพไปตั้งที่วัดโพธิ์ อ.เมืองนครราชสีมา อย่างสมเกียรติ มีเพื่อนข้าราชการและญาติมิตรร่วมไว้อาลัยคับคั่ง ซึ่งต้นสังกัดได้เสนอเลื่อนยศเป็น พ.ต.ท. นางณัฏฐา กล่าวยังทำใจไม่ได้กับเหตุที่เกิดขึ้น แต่ก็ภูมิใจที่สามีปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จนวาระสุดท้าย ตอนนี้ตนไม่มีรายได้อื่น ยังมีภาระต้องผ่อนบ้านเดือนละ 17,000 บาท แต่จะต้องสู้และเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดต่อไป ตอนนี้ลูกสาวไม่รู้ว่าพ่อเสียชีวิต และตนยังมีลูกชายบุญธรรมอีก 1 คน อายุ 19 ปี อยากให้ลูกทั้งสองคนรับราชการตำรวจตามความฝันของพ่อ

จิตอาสา 904 ร่วม “บิ๊กคลีนนิ่ง”
ต่อมาเวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยจิตอาสาพระราชทาน 904 มาช่วยทำความสะอาดฟื้นฟูศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยมี พล.ร.อ.ปวิตร รุจิเทศ องคมตรี ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน นำจิตอาสา 100 คนจากกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 21 ตำรวจ ภ.จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครราชสีมา และพนักงานของห้างกว่า 20 คน ช่วยกันทำความสะอาดรอบห้างทั้งหมด พร้อมตั้งโรงครัวพระราชทาน ด้านหน้าศูนย์การค้าเพื่อประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับจิตอาสาและประชาชนทั่วไป ที่มาลงทะเบียนนำรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ภายในลานจอดรถกลับบ้านได้รับประทานด้วย

ในหลวง–พระราชินี ทรงห่วงใย
พล.ร.อ.ปวิตร รุจิเทศ องคมนตรีกล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีความห่วงใยในผู้ประสบเหตุการณ์ที่เสียขวัญ ทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ตลอดจนประชาชนทุกคนในเมืองนครราชสีมา ทรงรับสั่งให้หน่วยจิตอาสาช่วยบำรุงขวัญประชาชนและทำความสะอาดฟื้นฟูคืนสภาพเมืองโคราชให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิม หลังจากวันนี้ไปจะมีการทำบิ๊กคลีนนิ่งใหญ่ทั้งเมืองโคราชอีกครั้ง ในวันที่ 12 ก.พ. และในวันที่ 13 ก.พ. จะมีพิธีทำบุญใหญ่ที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช

จนท.พฐ เร่งเก็บหลักฐานในห้าง
ด้านภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานยังคงเข้าไปเก็บพยานหลักฐาน วิถีกระสุนตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องจากจุดที่คนร้ายก่อเหตุเกิดขึ้นหลายจุด จึงต้องเก็บหลักฐานอย่างละเอียด โดยเฉพาะรถยนต์ที่ถูกไฟไหม้บริเวณลานจอดรถ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจ อย่างละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้ ทีมพนักงานสอบสวนคดีสะเทือนขวัญกราดยิงประชาชนกลางเมืองนครราชสีมา 70 นาย ซึ่ง พ.ต.อ.ราชศักดิ์ ญาณอุบล รอง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา เป็นหัวหน้าชุด เปิดศูนย์ปฏิบัติสอบสวนคดีส่วนหน้าที่บริเวณชั้น 4 ของศูนย์การค้าเพื่อสอบพยานที่เกี่ยวข้อง โดยไม่อนุญาตผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีหรือศูนย์การค้าเข้าไปในภายในอาคารอย่างเด็ดขาด

ต้องรอสำรวจความเสียหาย
ขณะเดียวกัน มีผู้ประกอบการร้านค้าและพนักงานร้านค้าจำนวนมาเดินทางมารอเข้าไปสำรวจความเสียหายของร้านค้า แต่ทางศูนย์การค้าอนุญาตให้เข้าไปเฉพาะผู้ประกอบการร้านค้าที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 ของศูนย์การค้าเท่านั้น ส่วนผู้ประกอบการบริเวณอื่นให้เดินทางมาติดต่อใหม่ในวันรุ่งขึ้น เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจสอบพื้นที่และเก็บหลักฐานยังไม่เสร็จสิ้น

ยอดบริจาคเยียวยา 7.3 ล้านบาท
ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 30 ราย ไม่มีการพบศพในห้างเพิ่มตามที่มีกระแสข่าวลือ สำหรับการเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ ทางจังหวัดพร้อมจะดูแลช่วยเหลือค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ โดยเฉพาะผู้บาดเจ็บที่อยู่ในความดูแลของ รพ.รัฐทั้งหมด ส่วนผู้บาดเจ็บบางรายที่ถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.เอกชน ทางครอบครัวสามารถมาติดต่อขอรับการช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัด ขณะนี้มีประชาชนได้ช่วยกันบริจาคเงินช่วยเหลือ ผ่านบัญชีจังหวัดมียอดเงินจำนวน 7.3 ล้านบาท รวมเงิน 1.5 ล้านบาท ที่นายอภิรักษ์ ชัชชานนท์ หรือเสี่ยโป้และคณะร่วมบริจาคด้วย ส่วนศพผู้เสียชีวิต พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด

ระดม พฐ.ลุยตรวจห้างเทอร์มินอล 21
ต่อมา พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 พร้อม พล.ต.ต.ฐากูล นัทธีศรี พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบช. สพฐ.ตร. เดินทางมาที่ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจาก จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ กว่า 50 นาย เข้าไปตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานภายในห้างอย่างละเอียด โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน น่าจะเสร็จเรียบร้อย ทั้งนี้ พล.ต.ท.พูลทรัพย์กล่าวว่า เคสนี้จะเป็นเคสนำไปศึกษาถึงมาตรการป้องกันเหตุภายในห้างต่างๆ ซึ่งแต่ละห้างควรที่จะนำแปลนรูปแบบของห้างไปประสานกับทางตำรวจในแต่พื้นที่ เพื่อที่จะเอาไว้เป็นข้อมูล หากมีเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้เกิดขึ้น

คปภ.4 เข้าประเมินค่าเสียหาย
เวลาเดียวกัน น.ส.พุทธภรณ์ วงศ์รอด ผอ.สำนักคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ภาค 4 (นครราชสีมา) และ น.ส.มณี ไวยภาษ ผอ.คปภ.จ.นครราชสีมา นำเจ้าหน้าที่ คปภ.พร้อมด้วยตัวแทนบริษัทประกันภัย ได้แก่ บมจ.ทิพยประกันภัย บมจ.ฟอลคอลประกันภัย บมจ.อาคเนย์ประกันภัย บมจ.แอกซ่าประกันภัย บมจ.ไทยไพบูลย์ประกันภัย และ บมจ.ชับบ์สามัคคีประกันภัย เดินทางมาตรวจสอบความเสียหายของศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อประเมินค่าเสียหายเบื้องต้น

ผบ.ตร.วิทยุขอบคุณกำลังพล
วันเดียวกัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. วิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติด่วนที่สุด ชั้นความลับความเร่งด่วน ถึงผู้รับปฏิบัติ รอง ผบ.ตร. และตำแหน่งเทียบเท่าผู้ช่วย ผบ.ตร. และตำแหน่งเทียบเท่า ผบช. และตำแหน่งเทียบเท่า ผบก.และตำแหน่งเทียบเท่าผู้รับทราบ นรม. และ รมว.กห. ระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 8-9 ก.พ. ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ที่ จ.นครราชสีมา โดยทันทีที่ทราบเหตุ ข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกนายทุกระดับชั้น ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความกล้าหาญ เสียสละ อุทิศตน ไม่หวั่นเกรงต่อภยันตราย แม้ต้องแลกด้วยเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องประชาชนและสังคม การกระทำดังกล่าวสมกับการได้ทำหน้าที่ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” อย่างแท้จริง จึงขอขอบคุณผู้บังคับบัญชาและข้าราชการตำรวจทุกนายมา ณ โอกาสนี้

ผบ.แป๊ะสั่งถอดบทเรียนเหตุสลด
เวลา 18.00 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับสิทธิประโยชน์ของผู้เสียชีวิต ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. ดำเนินการ จะให้สิทธิทุกอย่างที่สามารถให้ได้อย่างเต็มที่ ขณะนี้ทางญาติยังไม่ได้ร้องขอสิ่งใด เนื่องจากยังอยู่ในภาวะโศกเศร้า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราสูญเสียคนที่มีความสามารถ และเป็นบุคลากรที่ดี เป็นปกติของผู้บังคับบัญชาที่จะต้องเสียใจ หลังจากนี้ ได้สั่งการให้บุคคลที่เกี่ยวข้องถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอุปกรณ์ต่างๆที่ยังขาดไป และรายงานผลให้ตนทราบภายใน 2 สัปดาห์

ผู้ร่วมปฏิบัติงานทุกคนเป็นฮีโร่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า โลกโซเชียลมีการยกย่อง ผบ.ตร. ให้เป็นฮีโร่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าข่าวออกมาได้อย่างไร ทุกคนที่ร่วมปฏิบัติงานเป็นฮีโร่หมด ไม่ใช่ตนคนเดียว ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร ภาครัฐ ภาคเอกชน ที่มีส่วนร่วมในการปฏิบัติการครั้งนี้ เมื่อถามว่าจะมีมาตรการป้องกันเกี่ยวกับผู้ที่จะมีพฤติกรรมเลียนแบบก่อเหตุลักษณะแบบนี้หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ต้องขอความร่วมมือว่าอย่าไปลอกเลียนแบบในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

น.1 ยก 2 ผู้กล้าคือตัวอย่างที่ดี
ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวว่า สำหรับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะ ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา ผบ.หมวด (สบ 1) กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. และ ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย ผบ.หมู่ กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. เป็นความภาคภูมิใจของ บช.น. มีความกล้าหาญในสถานการณ์ที่อันตราย เสียสละ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของตำรวจนครบาล ส่วนสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับนั้น จะมีการเสนอทายาทขึ้นเป็นตำรวจต่อไป ส่วนสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับทางราชการจะได้เงิน 2,500,000 บาท และผู้มีจิตศรัทธาประชาชนยินดีที่จะช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ

พ่อแม่ครูเพชรภูมิใจลูกชาย
เมื่อเวลา 18.40 น. ด้าน ร.ต.สมชาย กำจัดภัย ผบ.หมวดปืนเล็ก ม.พัน.29 รักษาพระองค์ อายุ 59 ปี นางอัญชุลี กำจัดภัย อายุ 59 ปี บิดาและมารดา ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย ผบ.หมู่ กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. ร่วมกันเผยว่า มีลูกทั้งหมด 4 คน ด.ต.เพชรรัตน์เป็นคนโต เป็นคนที่รักในอาชีพตำรวจอย่างมาก ตั้งใจที่จะมาอยู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ เนื่องจากไม่ชอบทำงานในสถานีตำรวจ ชอบทำงานโลดโผน โดยก่อนที่บุตรชายจะออกภารกิจในครั้งนี้ ไม่ได้แจ้งให้ทราบ และทุกครั้งก็ไม่เคยชี้แจงถึงรายละเอียดต่างๆว่าไปปฏิบัติหน้าที่ที่ใด เนื่องจากเป็นห่วงพ่อแม่ ก่อนเกิดเหตุก็ไม่มีลางสังหรณ์แม้แต่อย่างใด แต่ทุกๆครั้งตนก็เป็นห่วงที่บุตรชายออกไป ปฏิบัติภารกิจ อย่างไรก็ตาม รู้สึกภาคภูมิใจกับการ ทำหน้าที่ของบุตรชายที่ช่วยเหลือประชาชน

ฮ.รับ สารวัตรเกม รักษาต่อ รพ.ตร.
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบช.ก.ประสานเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจ รับตัวสารวัตรเกม-พ.ต.ต.ศตวรรษ คนชุม สารวัตรกองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์วิสามัญฯ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา โดย พ.ต.ต.ศตวรรษเป็นคนถือโล่นำขบวนเข้าไปที่ห้องเย็น ก่อนถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่บริเวณเหนือหัวเข่า และจังหวะที่ล้มลงยังมีการปะทะต่อเนื่อง กระสุนของคนร้ายยิงถูกเข้าที่หัวแม่โป้งมือซ้ายอีกนัด หลังได้รับบาดเจ็บได้เข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และส่งตัวมารักษาต่อและพักฟื้นในการดูแลอย่างใกล้ชิด ของทีมแพทย์โรงพยาบาลตำรวจต่อไป

ย้ายศพ พ.อ.คู่กรณีจ่าโหดไปขอนแก่น
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ศาลา 1 วัดสุทธจินดา อ.เมืองนครราชสีมา สถานที่ตั้งศพ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ และนางอนงค์ มิตรจันทร์ แม่ยาย ตามที่ญาติแจ้งไว้กับทาง รพ.มหาราชนครราชสีมา กลับพบเพียงศาลาว่างเปล่าโดยเจ้าหน้าที่วัดแจ้งว่า ญาติย้ายศพไปแล้วตั้งแต่ช่วงกลางวัน โดยศพของ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ ญาตินำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 1 วัดกลางเมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น มีญาติมิตรมาร่วมพิธีรดน้ำศพ ต่างไม่ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น อ้างว่าผู้พันและผู้ก่อเหตุก็เสียชีวิตแล้ว ไม่ขอพูดใดๆอีก ในงานไม่พบภรรยาของ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ และไม่ทราบว่าศพของนางอนงค์ แม่ยายถูกนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดใด

เตือนโพสต์เลียนแบบพฤติกรรม
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีมีการโพสต์บนโลกโซเชียลลักษณะเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จากกรณีที่มีหนุ่มโพสต์เฟซบุ๊กข่มขู่ที่โรบินสัน จ.ชัยภูมิ ว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง เตือนประชาชนที่อาจทำด้วยความคึกคะนองหรือทำให้คนอื่นตกใจ มีความผิดทางอาญาฐานทำให้ ผู้อื่นตกใจ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท, นำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยน่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงฯ, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ไม่ควรเอาความสูญเสียมาล้อเล่น
รองโฆษก ตร.กล่าวต่อว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทราบแล้วว่าผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวคือใคร เชิญตัวมาสอบปากคำและแจ้งข้อหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวอ้างว่าสาเหตุที่ทำไปเพราะเมา พร้อมทั้งได้ตักเตือนว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมถึงทำแบบนี้ อยากให้ผู้ที่กระทำคำนึงถึงความรู้สึกของญาติผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต หากเป็นญาติท่านจะรู้สึกอย่างไร ไม่ควรนำเอาความสูญเสียมาทำเป็นเรื่องล้อเล่น ขอฝากเตือนไปยังกลุ่มวัยรุ่นเยาวชนหรือผู้ใดก็ตาม ที่มีความคึกคะนอง การนำข้อมูลเข้าระบบคอมพิวเตอร์ โพสต์ แชร์ ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม หรือแต่งกายเลียนแบบ อาจก่อให้เกิดความสับสน หรือเข้าใจผิด อีกทั้งเป็นการกระทำที่ทำให้ประชาชนทั่วไปตกใจกลัว เกิดความหวาดระแวง เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อาจจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย มีโทษทั้งจำและปรับด้วยอีกส่วนนึง

โพสต์ข่มขู่ถล่มห้างเลียนแบบ
ส่วนกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “เฮียอาร์ม มอเตอร์” โพสต์ภาพห้างเทอร์มินอล 21 โคราช พร้อมข้อความว่า “ว.2 ว.8 ว.24 ว.60 ว.61 ว.100 510 ว.100 ว.60 วิสามัญ ต่อไปโรบินสันชัยภูมิ” และยังโพสต์ภาพปืนและแมกกาซีนพร้อมข้อความว่า “เทอร์มินอล 21 โคราช มาละ เดี๋ยวผม โรบินสัน ชัยภูมิ อย่าดูถูกความรู้สึกที่มีให้ หมาจนตรอกมันไม่รู้คุณใครหรอก” สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มโลกโซเชียลพากันต่อว่าพฤติกรรมผู้โพสต์เกาะกระแสเลียนแบบ จ.ส.อ.คลั่งกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.สมภพ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จ.ชัยภูมิ สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ติดตามหาตัวเจ้าของเฟซบุ๊กที่โพสต์ข้อความดังกล่าว

โดนแจ้ง 3 ข้อหาอ้างเมาคะนอง
พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนนำหมายศาลเข้าตรวจค้นร้านจำหน่ายรถ จยย. บริษัททองแท้มอเตอร์ ต.ในเมือง เพื่อจะจับกุมนายพีรพัฒน์ หรืออาร์ม ชูแสง อายุ 27 ปี ลูกจ้างร้านดังกล่าว แต่ไม่พบตัว ต่อมานายพีรพัฒน์ เดินทางไปพบตำรวจที่ สภ.เมืองชัยภูมิ อ้างว่าไม่ได้เป็นคนโพสต์ข้อความ แต่ตำรวจมีหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ ในที่สุดยอมรับสารภาพว่าโพสต์เฟซบุ๊กข้อความดังกล่าวเพราะเมาสุรา ไม่ได้ตั้งใจจะทำจริง แต่โกรธแค้นที่ จ.ส.อ.ผู้ก่อเหตุเป็นคนชัยภูมิ ทำไปเพราะความเมาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนภาพที่ใส่เครื่องแบบทหารเนื่องจากเมื่อก่อนเป็นพลทหารอยู่ จ.นครราชสีมา แอบเอาชุดของนายมาใส่และถ่ายรูปลงเฟซบุ๊กเท่านั้น ภาพปืนเอามาจากในเน็ต ตำรวจนำตัวนายพีรพัฒน์ไปค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่ห้องพักก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี 3 ข้อหาคือ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ข่มขู่ให้คนอื่นตกใจกลัว และแต่งเครื่องแบบราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต

จับนักมวยโจ๋โพสต์ป่วนอีกราย
เช่นเดียวกับที่ จ.ร้อยเอ็ด มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “สิน ซารางกิ๊ฯ.” โพสต์ภาพตัวเองถือปืนพร้อมข้อความว่า “โคราชก็เกิดแล้วต่อไปร้อยเอ็ดครับ เดี๋ยวหมาจนตรอกอย่างผมจะทำมันเอง บิ๊กซีร้อยเอ็ด” พ.ต.อ.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด เผยว่า ได้จับกุมตัวผู้โพสต์ได้แล้วคือนายบอย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี อาชีพนักมวย รับว่าโพสต์ไปด้วยความคึกคะนอง ส่วนปืนเป็นของเล่นพลาสติกนำด้ามและลำกล้องมาประกบกันให้เหมือนปืนจริง พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยเชื่อได้ว่าจะทำให้เกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ฝากเตือนประชาชนที่คิดจะโพสต์ภาพลักษณะนี้ห้ามทำเด็ดขาดเพราะเป็นความผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีอัตราโทษสูงจำคุก 5 ปี และ ที่สำคัญเป็นการซ้ำเติมญาติผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ที่ จ.นครราชสีมาอีกด้วย

หนุ่มหนีทหารเมาโพสต์โดนล็อก
อีกรายที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา ร่วมกับ พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ จับกุมตัวนายอภิลักษณ์ สอาดศรี อายุ 23 ปี ได้ที่บ้านริมถนนเลียบทางรถไฟ ตรงข้ามวัดธรรมสามัคคี พัทยาใต้ หลังใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวโพสต์ข้อความ “พอเรื่อง...ทหารคลั่งจบ เดียวกูเอาบ้าง...เทอร์มินอลพัทยา” นายอภิลักษณ์อ้างว่า นั่งดื่มสุราอยู่ที่บ้านเพื่อนจนเมาเกิดความคึกคะนองเลยพิมพ์ข้อความดังกล่าวออกไปโดยไม่ได้คิดอะไร อยากขอโทษทุกคนที่โพสต์ไปแบบนั้น ตำรวจดำเนิน คดีข้อหาข่มขู่ให้ผู้อื่นตกใจกลัว มีโทษเปรียบเทียบปรับ พร้อมประสานไปยังทหาร สห.ทร.3 (สงขลา) ที่นายอภิลักษณ์หนีทหารออกมาตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.61 มารับตัวไปรับโทษตามระเบียบของทหารต่อไป

“บิ๊กแดง” เตรียมชี้แจงทุกเรื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เตรียมแถลงข่าวในวันที่ 11 ก.พ. เรื่องกฎระเบียบของกองทัพบกที่ผู้บังคับบัญชาเคยสั่งการไปให้ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา สืบเนื่องจากเหตุการณ์ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ก่อเหตุปล้นปืนและกระสุนจากป้อมรักษาการณ์ในหน่วย ไปใช้ก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ทันทีที่เกิดเหตุ พล.อ.อภิรัชต์ สั่งการให้กองทัพภาคที่ 2 เข้าควบคุมสถานการณ์ร่วมกับตำรวจ ให้ดูแลความปลอดภัยของประชาชนทุกคนเป็นสำคัญ รวมทั้งเดินทางไปร่วมแก้ไขสถานการณ์ในพื้นที่ด้วยตัวเอง โดย พล.อ.อภิรัชต์ พร้อมชี้แจงในทุกเรื่องที่สื่อมวลชนจะสอบถาม

รบ.เร่งสำรวจสรุปสิทธิเยียวยา
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีคำสั่งด่วนให้ทุกหน่วยงานเร่งสำรวจสิทธิประโยชน์ เงินเยียวยาและความช่วยเหลือ กรณีประชาชนและเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.นครราชสีมา เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ทายาทและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ ตามสิทธิที่ พึงมีพึงได้ เบื้องต้นกระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้สำรวจสิทธิเงินเยียวยาแล้ว จะรวบรวมความ ช่วยเหลือจากทุกหน่วยงานภายในวันที่ 11 ก.พ. รัฐบาลรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอเป็นกำลังใจแก่คนไทยและพี่น้องชาวโคราชทุกคน

“จิรายุ” แนะ “บิ๊กตู่” แก้ภาพลักษณ์
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งถึงญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บและขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเยียวยาแก่ผู้สูญเสียในทันที รวมถึงหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ไปแสดงท่ามินิฮาร์ทและส่งสัญลักษณ์ไอเลิฟยู เหมือนกับการลงพื้นที่หาเสียง ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง ขอเรียกร้องให้นายกฯรีบแก้ภาพลักษณ์ก่อนที่จะลุกลามเป็นความไม่พอใจต่อญาติผู้สูญเสียและประชาชนมากไปกว่านี้ นายกฯควรนำคณะรัฐมนตรีไปที่เกิดเหตุและยืนไว้อาลัยอย่างสงบ ด้วยอาการสำรวม หรือทำในการประชุม ครม.ที่จะถึงนี้ ถือเป็นการให้เกียรติผู้สูญเสีย

จ่อยื่นญัตติตั้ง กมธ.ศึกษาป้องกัน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในฐานะเป็นลูกหลานชาวโคราช รู้สึกตกใจ เหตุการณ์นี้ทำให้ประชาชนเสียขวัญ ตนก็มีญาติติดอยู่ในห้างที่เกิดเหตุ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวที่สูญเสียคนรักไป ขอให้กำลังใจทุกท่าน และเห็นว่าการถอดบทเรียนป้องกันเหตุการณ์ในอนาคตถือเป็นสิ่งจำเป็น รวมทั้งยังสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ตนได้พูดคุยกับประธานวิปฝ่ายค้านและเลขาธิการพรรคว่า เป็นเวลาที่รัฐบาล ฝ่ายค้าน ข้าราชการ ประชาชน ต้องร่วมแรงร่วมใจกันทำอย่างไรให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น พรรคจะตั้งกระทู้ถามและเสนอญัตติตั้งกรรมาธิการศึกษาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดการทำร้ายด้วยอาวุธร้ายแรงแบบนี้กับประชาชนในที่สาธารณะ

ติง “บิ๊กตู่” พฤติกรรมไม่เหมาะสม
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า จากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่โคราช สร้างความสะเทือนขวัญและหดหู่ให้กับคนไทยทั้งประเทศ อยากให้กองทัพได้ศึกษาบทเรียนหาทางป้องกันควบคุมไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก จากการศึกษาบทเรียนจากต่างประเทศพบว่ามีโอกาสสูงที่จะเกิดการลอกเลียนแบบได้ รัฐบาลต้องเร่งสร้างมาตรการป้องกัน รวมถึงดูแลสภาพจิตของประชาชนที่ได้รับผลกระทบเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา นอกจากนี้ ประชาชนจำนวนมากรู้สึกไม่พอใจกับการแสดงออกของนายกฯ ที่มีพฤติกรรมคล้ายไปหาเสียงมากกว่าไปแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมในภาวการณ์ที่เศร้าสลดเช่นนี้

ทำเนียบ–ส.ว.ร่วมแต่งดำไว้อาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 11 ก.พ. ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แจ้งไปยังรัฐมนตรีทุกคน ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆภายในทำเนียบรัฐบาล ทั้ง สลค. สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) พร้อมใจกันแต่งชุดดำ เพื่อร่วมไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิต และแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคน เช่นเดียวกับสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาส่งข้อความแจ้งไปยัง ส.ว.ทางไลน์ ระบุว่านายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา มีดำริให้เชิญชวน ส.ว.ร่วมแสดงการไว้อาลัยต่อเหตุการณ์สูญเสียชีวิต และบาดเจ็บของประชาชนเป็นจำนวนมาก ที่ จ.นครราชสีมา โดยให้ ส.ว.ร่วมกันแต่งกายไว้อาลัยในชุดสีดำ หรือโทนสีดำในการประชุมวุฒิสภาในวันที่ 11 ก.พ.นี้

กสทช.จ่อจัดระเบียบเสนอข่าว
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เผยว่า กรณีที่มีสื่อมวลชนบางรายนำเสนอรายงานสดเหตุการณ์คนร้ายกราดยิง รวมถึงรายงานแผนปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ จนส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานและการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนถูกวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้างนั้น กสทช.ได้ศึกษารูปแบบการเสนอข่าวลักษณะเดียวกันของสื่อมวลชนต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ที่สื่อมวลชนเคยแจ้งไว้กับองค์การอนามัยโลกว่า หลายประเทศเลิกนำเสนอรูปคนร้ายในสื่อ เลิกการรายงานสดเหตุการณ์ ยกเลิกการนำ เสนอคลิปเหตุการณ์สะเทือนขวัญต่างๆแล้ว เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาและอาชญาวิทยาได้ออกมา เตือนว่าจะนำไปสู่พฤติกรรมการเลียนแบบ ตนเห็นด้วยกับแนวทางการเสนอข่าวที่องค์การอนามัยโลกและสหรัฐฯได้แจ้งไว้ จะนำเสนอที่ประชุม กสทช. เพื่อ พิจารณาใช้เป็นแนวทางการทำข่าวลักษณะนี้ต่อไป

ให้ทุกฝ่ายช่วยกำหนดแนวทาง
เลขาธิการ กสทช. เผยด้วยว่า การนำเสนอข่าวสารต่างๆต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ เปลี่ยนมุมมองใหม่ ไม่ใช่นำเสนอในแนวที่เสมือนให้ผู้ชมอยู่ในเหตุการณ์อย่างเดียว แต่ต้องคิดถึงผลจากการนำเสนอข่าวสารในรูปแบบนั้นๆ ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้างด้วย ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนทุกฝ่ายควรตระหนัก ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนในฐานะผู้นำเสนอข่าวสาร กสทช.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงประชาชนผู้รับสารด้วย ทุกฝ่ายต้องช่วยกันกำหนดแนวทาง แสดงท่าที ความต้องการต่อการนำเสนอเนื้อหาข่าวสารที่เหมาะสม จะเสนอแนวทางการนำเสนอข่าวแบบนี้ให้บอร์ด กสทช.พิจารณาเพื่อให้มีการนำเสนอข่าวสารในเชิงสร้างสรรค์ เกิดประโยชน์ต่อสังคม

Loading...